เป๊ป กวาร์ดิโอลา ส่งสารถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนศึกใหญ่บุกเยือนเรอัล มาดริด ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกคืนวันพุธนี้ โดยย้ำว่านี่คือ “สถานที่ที่ดีที่สุดในการพิสูจน์ตัวเอง” สำหรับทีมซิตี้ชุดใหม่ ที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและขาดผู้เล่นสำคัญหลายราย

กวาร์ดิโอลายืนยันว่า จอห์น สโตนส์ และ โรดรี้ จะพลาดเกมนี้เพราะอาการบาดเจ็บ ขณะที่ขุมกำลังหลักในอดีตอย่าง เอแดร์สัน, เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ต่างย้ายออกไป ทำให้ทีมต้องพึ่งพาผู้เล่นรุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยลิ้มรสบรรยากาศดวลราชันชุดขาวมาก่อน

ซิตี้ทุ่มกว่า 185 ล้านปอนด์เมื่อเดือนมกราคมที่แล้ว และเสริมทัพต่อเนื่องในซัมเมอร์ ทำให้กุนซือชาวสเปนมองว่าถึงเวลาที่นักเตะหน้าใหม่ต้องเรียนรู้และพิสูจน์ว่าพวกเขาพร้อม
เป๊ปกล่าวว่า
“เราสูญเสียผู้เล่นสำคัญไปหลายคน… เดอ บรอยน์, กุนโดกัน, วอล์คเกอร์ สโตนส์กับโรดรี้ก็ไม่อยู่ ผู้เล่นหลายคนยังใหม่และต้องได้สัมผัสเกมระดับนี้ เพื่อที่ครั้งต่อไปพวกเขาจะมั่นใจมากขึ้น เบร์นาเบวคือที่ที่ดีสุดในการพิสูจน์ตัวเอง”

ด้านกัปตันทีม แบร์นาร์โด ซิลวา เห็นพ้องพร้อมชี้ว่านี่เป็นบททดสอบสำคัญว่า ซิตี้ชุดใหม่พัฒนามาไกลแค่ไหน
“มันเป็นเพียงหนึ่งเกม แต่เป็นการทดสอบที่ยอดเยี่ยมในบรรยากาศแบบนี้ เราเป็นทีมใหม่ ไดนามิกใหม่ เต็มไปด้วยพลังและศักยภาพ”

เกมนี้ถือเป็นการพบกันครั้งที่ 11 ในศึกแชมเปียนส์ลีกภายใน 7 ฤดูกาล โดยก่อนหน้านี้ล้วนเป็นรอบน็อกเอาต์ มาดริดเข้ารอบ 3 ครั้ง ส่วนซิตี้ 2 ครั้ง

นอกจากเรื่องทีมซิตี้ที่กำลังเปลี่ยนถ่ายแล้ว กระแสใหญ่ที่มาดริดคืออนาคตของ ชาบี อลอนโซ่ หลังพาทีมชนะเพียง 2 จาก 7 นัดหลังสุดในทุกรายการ และโดนบาร์เซโลน่าทิ้งห่างถึง 4 แต้มในลาลีกา ท่ามกลางความกดดันถาโถม กวาร์ดิโอลายังออกปากให้กำลังใจลูกน้องเก่าสมัยคุมบาเยิร์น
“ผมรักเขา” เป๊ปกล่าว ก่อนเน้นว่าโค้ชที่มาดริดหรือบาร์เซโลน่าต้องแบกความกดดันมหาศาล
“ถ้าผมทำผลงานกับซิตี้แบบปีที่แล้วที่นี่ ผมคงโดนปลดไปแล้ว”

เป๊ปยังพูดถึงปัญหาสื่อสเปนที่รู้เรื่องในห้องแต่งตัวเยอะผิดปกติ พร้อมชี้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าบอร์ดมอบอำนาจให้ใคร – ผู้จัดการทีม หรือผู้เล่น

แม้มาดริดจะเจอปัญหาในลีก แต่พวกเขายังชนะ 4 จาก 5 นัดในแชมเปียนส์ลีก ขณะที่ซิตี้หวังล้างแผลหลังแพ้คาบ้านต่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-2 ในนัดก่อน ซึ่งเป๊ปยอมรับว่าตัวสำรองหลายคนยังขาดความมั่นใจในการเล่น

ศึกที่เบร์นาเบวคืนนี้จึงเป็นมากกว่าแค่เกมรอบแบ่งกลุ่ม แต่เป็นบททดสอบสำคัญของทีมซิตี้ยุคใหม่ ว่าพร้อมยืนหยัดในเวทียุโรปมากแค่ไหน.